ลักษณะทางกายวิภาคและสรีรวิทยาของจระเข้
จระเข้ออกลูกเป็นไข่ก่อนแล้วจึงฟักออกเป็นตัว(Oviporous)ซึ่งตัวอ่อนที่ออกมาจะมีรูปร่างลักษณะเหมือนตัวเต็มวัยและมีขนาดเล็กกว่าและมีสีคล้ำกว่า
รูปร่างของจระเข้ก็คล้ายกับจิ้งจกแต่มีขนาดใหญ่กว่าหลายเท่าสำหรับการเจริญเติบโตก็มีตั้งแต่ขนาดปานกลางจนถึงขนาดใหญ่มากร่างกายปกคลุมด้วยผิวหนังที่แข็งแรง
ลักษณะคล้ายกับเกราะคลุมตัว จะมีจุดอ่อนเพียง 2 แห่ง
คือลูกตา และปลายจมูกที่อ่อนนุ่นเท่านั่น โดยทั่วไปจระเข้ตัวผู้มีขนาดใหญ่กว่าตัวเมียจระเข้มีหัวขนาดใหญ่
กะโหลกศีรษะแข็ง มีผิวหนังที่หนามาก
ผิวหนังส่วนหัวที่เชื่อมติดกับกะโหลกศีรษะบริเวณคอตรงส่วนท้ายทอยมีปุ่มเกล็ดแข็ง (Post
occipitalscale) เห็นชัด ซึ่งจำนวนและการเรียงตัวของปุ่มเกล็ดแข็งนี้สามารถนำไปใช้จำแนกชนิดพันธุ์ของจระเข้ที่จะแตกต่างกันไปตามชนิดพันธุ์ จระเข้เป็นสัตว์เลือดเย็น จึงชอบอ้าปาก
เพื่อถ่ายเทความร้อนจากภายนอกมาสู่ร่างกาย ฟันของ มันมีไว้จับและคาบเหยื่อ
ไม่สามารถเคี้ยวได้ ท้อง เพราะว่ามันเป็นสัตว์ที่เคียวอาหารไม่ได้ปากของจระเข้จะมีลักษณะยาว
ปลายปากเชิดงอนขึ้นคล้ายปากงู เนื่องจากพังผืดที่สามารถยืดหดได้มาก ของจระเข้จึงแบ่งเป็น 2 ส่วน คือกระเพาะและช่อง ย่อยอาหาร ปกติมันจะกลืนหิน กรวด
เข้าไปในกระเพาะเพื่อช่วยย่อยอาหาร จระเข้มีหัวใจ 4 ห้องที่ประสิทธิภาพมากกว่าสัตว์เลื้อยคลานประเภทอื่น ที่มีกุยเพียง 3 ห้อง เลือดจะไหลจากหัวใจห้องปลายขวา ไปยังเส้นโลหิตแดงในปอด
เพื่อฟอกออกซิเจนในปอด และจะ กลับไปยังหัวใจซีกซ้าย ผ่านไปยังหัวใจห้องปลายซ้าย
กระทั่งสูบฉีดออกไปเลี้ยงร่างกาย ฟันของจระเข้จะมีลักษณะเป็นรูปทรงกรวย (Conical
shape) ฝังแน่นอยู่บนขากรรไกรบน(Upper jaw)และขากรรไกรล่าง (Lower jaw) ฟันจระเข้จะแบ่งออกเป็น 2 จุดด้วยกันคือ ชุดฟันที่มีขนาดใหญ่และชุดฟันที่มีขนาดเล็ก
ซึ่งฟันของจระเข้นี้ไม่สามารถเคี้ยว(chewing) เหยื่อหรืออาหารจะใช้เพียงสำหรับจับงับ(holding,seizing) เหยื่อหรืออาหารเท่านั้น ในจระเข้สกุล Crocdylus หุบปากจะมองเห็นฟันซี่ที่ 4ตรงกับรอยคอด (notch) ของขากรรไกรบน
สำหรับจระเข้ในสกุลอื่นๆจะมองไม่เห็นฟันดังกล่าวเมื่อหุบปากลง จระเข้สกุล Crocodylus มีฟันบนประมาณ 28-32 ซี่ และฟันล่างประมาณ 28-30 ซี่ สำหรับสกุล Tomistoma มีฟันบนประมาณ 40-42 ซี่และฟันล่างประมาณ 36-38 ซี่ ขากรรไกรหรือกรามของจระเข้จะแข็งแรงมาก มีความแรงในการงับประมาณ 545 กิโลกรัม หรือประมาณ 1200 ปอนด์ต่อ 1 ตารางนิ้ว ลิ้นของจระเข้จะหนาและกว้างมากติดอยู่กับขากรรไกรล่าง
สามารถทำให้สูง-ต่ำได้อย่างรวดเร็วเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำไหลเข้าสู่ลำคอในขณะอ้าปาก
จระเข้วงศ์ Gavialidae มีต่อมขจัดเกลืออยู่บนลิ้น จระเข้มีต่อมกลิ่นอยู่คู่หนึ่งที่โคนกรามล่าง
ทำหน้าที่ผลิตสารที่มีกลิ่นเฉพาะตัวออกมาในฤดูผสมพันธุ์
เพื่อทิ้งกลิ่นไว้ให้จระเข้ที่เป็นคู่ตามมาพบเพื่อผสมพันธุ์กัน (อีกคู่หนึ่งจะซ่อนอยู่ภายในรูทวารหนัก) จมูกจระเข้จะยาวมากใช้สำหรับหายใจและดมกลิ่นอาหาร
(โดยภายในช่องปากจะมีโพรงหรือกระเปาะอยู่ภายในใช้ดมกลิ่น
ซึ่งจระเข้สามารถดมกลิ่นไม่ไกลมาก) จระเข้มีรูจมูก 2 รู ตั้งอยู่บนก้อนขี้หมาสามารถยืดหยุ่นปิดเปิดได้เวลาค่ำจะปิดสนิท ป้องกันไม่ให้น้ำเข้าจมูกได้ หูของจระเข้จะตั้งอยู่บริเวณส่วนหลังของตา
ข้างละ 1 รู ซึ่งแต่ละรูก็จะมีเนื้อเยื่อบางๆสำหรับควบคุมการปิดเปิดรูหูตาของจระเข้ตั้งอยู่ในตำแหน่งที่สูงกว่าระดับหน้าและอยู่ในระดับเท่ากับจมูก ลูกตาของจระเข้ในเวลากลางวัน ตาดำจะเหลือเป็นเส้นนิดเดียว เวลากลางคืนจะขยายกว้างออกเป็นวงกลม ตาจระเข้นอกจากจะมีหนังตาปิดเปิดแล้ว ยังมีเยื่อหรือม่านตาใสบางปิดเปิดทางด้านในของหนังตา ทำให้สามารถลืมตามองเห็นในน้ำได้ดีอีกด้วย ที่บริเวณส่วนหัวของจระเข้จะเป็นแผ่นหนังที่หนาหุ้มคลุมกะโหลกศีรษะไว้ ไม่มีเกล็ดชิ้นเล็กๆหุ้มคลุมชัดเจน เช่น สัตว์จำพวกกิ้งก่า ที่ลำคอจระเข้จะมีเกล็ดขนาดเล็กหุ้มคลุม และส่วนบนของลำคอนี้ก็ยังมีเกล็ดขนาดใหญ่หุ้มคลุมด้วยมีจำนวนและลักษณะการเรียงแตกต่างกันไปตามชนิดพันธุ์ ที่ท้องจระเข้จะมีเกล็ดขนาดเล็กหุ้มคลุม ที่ใต้ท้องจระเข้จะมีผิวหนังบางแต่เหนียวและมีเกล็ดขนาดเล็กเช่นกัน ที่หลังจระเข้จะประกอบไปด้วยสันเกล็ดเป็นแนวตลอดทั้งลำตัวจนถึงประมาณเกล็ดที่ 10 ของเกล็ดส่วนหาง ที่ขาทั้ง4จะมีเกล็ดขนาดเล็กๆหุ้มคลุม นิ้วมีพังผืด และมีเล็บยาวแข็งแรงมากสำหรับที่หางจะมีเกล็ดเดี่ยวหุ้มคลุม